เนื่องในโอกาสที่โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกาครบ 500
ปี สุนทรพจน์ของหัวหน้าอินเดียนแดงซีอาเติล จึงถูกนำมาเผยแพร่ในวารสารสารคดี ฉ.๘๔
ปี ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕, น. ๔๗ – ๔๘. เป็นสุนทรพจน์เกี่ยวกับการที่คนขาวขอซื้อดินแดนของอินเดียนแดงในปี
ค.ศ. ๑๘๕๔ ซึ่งได้รับยกย่องในเชิงวรรณกรรมว่า
ก่อให้เกิดความสะเทือนใจอย่างสูงแก่ผู้อ่าน และมีเนื้อหาลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
" หัวหน้าใหญ่แห่งวอชิงตันให้คนมาบอกว่าต้องการซื้อแผ่นดินของเรา เราจะซื้อหรือขายท้องฟ้า และความอบอุ่นแห่งผืนดินนี้ได้อย่างไร
ความคิดเช่นนี้เป็นเรื่องแปลกสำหรับเรา
หากว่าเรามิได้เป็นเจ้าของความบริสุทธิ์ของอากาศและประกายแห่งสายน้ำ
เราจะซื้อมันได้อย่างไรกัน
ทุก ๆ ส่วนบนพื้นธรณีนี้
ล้วนมีค่าประหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนของเรา
ใบสนทุกใบ หาดทรายทุกหาด สายหมอกทุก ๆ สายในป่าใหญ่
ทุ่งกว้าง และหมู่แมลง มีความหมายดุจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความทรงจำ
และประสบการณ์ของเรา
สายธารแห่งชีวิตที่ซึมซ่านอยู่ในต้นไม้เหล่านั้นเล่า คือ
สิ่งที่ส่งทอดความทรงจำของเราชาวผิวแดง
คนขาวที่ลาล่วงลับไป
แล้วลืมเลือนถิ่นเกิดเมื่อเขาเดินอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว
บรรพบุรุษของเราไม่เคยลืมดินแดนที่งดงามแห่งนี้
เพราะนี่คือแม่ธรณีของพวกเราชาวผิวแดง
เราเป็นส่วนหนึ่งของผืนดิน และผืนดินก็เป็นส่วนหนึ่งของเราด้วย
ดอกไม้อันหอมหวาน คือ พี่สาวน้องสาวของเรา
กวาง ม้า และนกอินทรีย์ที่ยิ่งใหญ่นั้นเล่า คือ
พี่ชายน้องชายของเรา
ผาสูง ชายฝั่ง สายธารในทุ่งกว้าง ไออุ่นจากลูกม้าและคน
ต่างคือญาติของครอบครัว
เมื่อหัวหน้าใหญ่แห่งวอชิงตันให้คนมาบอกว่า
ต้องการซื้อแผ่นดินของเรา
เขาเรียกร้องเกินกำลังเรานัก
เรารู้ว่าคนขาวไม่เข้าใจวิถีชีวิตของเรา
สำหรับพวกเขา ผืนดินแห่งนี้ไม่มีความแตกต่างอะไรกับที่ดินแปลงหนึ่ง
พวกเขาคือคนแปลกหน้าที่มาพร้อมกับความมืด
และหยิบฉวยสิ่งที่ต้องการไปจากผืนแผ่นดิน
ผืนแผ่นดินมิใช่พี่น้องเขา แต่เป็นศัตรูของเขา
เมื่อพวกเขาพิชิตได้แล้ว ก็บุกต่อไป
พวกเขาทิ้งหลุมฝังศพของบรรพบุรุษไว้ข้างหลังอย่างไม่ใยดี
สุสานของบรรพบุรุษ และสิทธิของการถือกำเนิดของลูกหลานถูกลืมเลือน
พวกเขาถือว่าแม่ธรณี-ผืนแผ่นดินแห่งนี้
และพี่ชายของเขา-ท้องฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่
คือสิ่งที่หาซื้อได้ ตักตวงเอาผลประโยชน์และขายได้ราวฝูงแกะ
หรือลูกประคำสีสวย
ความโลภโมโทสันของพวกเขาจะทำลายผืนแผ่นดินแห่งนี้
และเหลือไว้แต่ทะเลทราย
ไม่มีมุมที่สงบเงียบในเมืองของคนขาว
ไม่มีที่ใดเลยสำหรับฟังเสียงคลี่ใบของต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิ
หรือเสียงกรีดปีกของแมลง
อาจเป็นเพราะว่า ข้าฯเป็นคนเถื่อน และข้าฯไม่เข้าใจ
สำหรับคนขาว เสียงธรรมชาติเหล่านี้ฟังรกหู
แล้วชีวิตจะเหลืออะไรกันเล่า
ถ้าเราไม่อาจได้ยินเสียงร้องครวญของนกวิปเปอร์วิลล์ในตอนกลางคืน
หรือการทุ่มเถียงกันของกบในบึง
ข้าฯเป็นคนผิวแดง และข้าฯไม่เข้าใจ
ชนเผ่าเราชอบฟังเสียงนุ่ม ๆ ของลมที่พัดผ่านผิวน้ำในบึง
และสูดดมกลิ่นของสายลม เราชอบเสียงฝน
และกลิ่นหอมของป่าสน
อากาศมีค่ายิ่งนักสำหรับชนเผ่าของเราสิ่งมีชีวิตทุกชีวิต
มีลมหายใจเดียวกันสัตว์ ต้นไม้ คน
ล้วนมีลมปราณเดียวกัน คนขาวดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงอากาศที่เขาหายใจ
เปรียบดังคนที่กำลังสิ้นลมย่อมไม่ได้กลิ่นเหม็นเน่า
หากเราขายผืนแผ่นดินนี้แก่ท่าน
จงจำไว้ว่าอากาศเป็นสิ่งมีค่าของเรา
อากาศคือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทุก ๆ ชีวิต
สายลมแรกที่ทำให้ชีวิตแก่บรรพบุรุษของเรา
เป็นสายลมเดียวกับลมหายใจสุดท้ายก่อนที่บรรพบุรุษเราจะจากไป
และสายลมก็ได้ให้ชีวิตแก่ลูกหลานของเรา ถ้าเราขายผืนแผ่นดินนี้แก่ท่าน ท่านต้องบำรุงรักษา
และทะนุถนอมให้คงความศักดิ์สิทธิ์
เพื่อที่ว่าคนขาวก็อาจไปสัมผัสสายลม
และกลิ่นอันหอมหวานของลมที่พัดผ่านทุ่งดอกไม้
ท่านต้องสอนลูกหลานของท่านให้เข้าใจว่าพื้นดินที่ท่านยืนอยู่นี้
คือเถ้าถ่านแห่งบรรพบุรุษเรา
พวกเขาจะได้เคารพแผ่นดิน บอกลูกหลานของท่านว่าธรณีผืนนี้อุดมไปด้วยเครือญาติแห่งเรา
สอนลูกหลานของท่านอย่างที่เราสอนลูกหลานของเรา
บอกพวกเขาว่าแผ่นดินคือ แม่ธรณี
แม้นเกิดสิ่งใดขึ้นกับผืนแผ่นดิน
สิ่งนั้นย่อมจะเกิดกับลูกหลานของแผ่นดินด้วย
ถ้ามนุษย์ถ่มน้ำลายรดแม่ธรณี มนุษย์ก็กำลังถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง
เรารู้ว่า ผืนแผ่นดินมิใช่ของมนุษย์
มนุษย์ต่างหากเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดิน
เรารู้ว่า สรรพสิ่งล้วนเกี่ยวพันกัน ประหนึ่งสายโลหิตที่เชื่อมครอบครัวเดียวกัน
เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับแผ่นดิน
สิ่งนั้นย่อมมีผลต่อลูกหลานของแผ่นดินเช่นกัน
มนุษย์มิใช่ผู้ถักทอสายใยแห่งชีวิต มนุษย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสายใยแห่งชีวิต
เมื่อเรากระทำสิ่งใดต่อสายใยแห่งชีวิต
เขากำลังกระทำสิ่งนั้นต่อตนเอง
เพียงอีกไม่กี่ชั่วโมง อีกไม่กี่ฤดูกาล
ลูกหลานของชนเผ่าที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินแห่งนี้
และที่เหลือเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ในป่าไม้ไม่กี่แห่ง ก็จะไม่หลงเหลืออยู่เลย
จะไม่มีใครอยู่ข้างหลัง
เพื่อไว้ทุกข์ให้แก่ชนเผ่าที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยความใฝ่ฝัน
เช่นเดียวกับที่ชนเผ่าของท่านเป็นอยู่ แต่ข้าฯ จะเศร้าโศกไปใย กับการล่มสลายของชนเผ่าเรา
เผ่าหนึ่ง ๆ คือ ผู้คน ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์เกิดมาแล้วก็จากไป
เฉกเดียวกับคลื่นในท้องทะเล
เช่นนี้แล้ว เราจะพิจารณาข้อเสนอของท่าน และไปยังเขตสงวน
ณ ที่นั้น เราอาจจะมีชีวิตที่เราปรารถนา
เท่าที่วันเวลาของเรายังเหลืออยู่
เมื่อคนผิวแดงคนสุดท้ายจากโลกนี้ไปแล้ว
และความทรงจำของเขาเป็นเพียงเงาของปุยเมฆ
ที่เคลื่อนผ่านทุ่งแพร์รี่ฝั่งทะเล
และราวป่าที่นี่จะยังคงรักษาจิตวิญญาณของชนเผ่าเรา
พวกเรารักพื้นแผ่นดินแห่งนี้
เหมือนดังทารกน้อยรักเสียงหัวใจเต้นของแม่
หากเราขายผืนดินนี้แก่ท่าน รักแม่ธรณีให้เหมือนกับที่เรารัก
ทะนุถนอมผืนดินนี้ ดังที่เราเคยทะนุถนอม
พิทักษ์ความทรงจำของแผ่นดินนี้ไว้ เช่นเดียวกับที่เราได้พิทักษ์
และด้วยพลังทั้งหมดของท่าน สติปัญญาทั้งหมดของท่าน
ชีวิตจิตใจทั้งหมดของท่าน
จงรักษาผืนแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานของท่าน
และรักผืนแผ่นดินนี้ ดุจความรักของพระเจ้าที่ให้แก่เราทุกคน
เรารู้ว่าพระเจ้าของเรา คือ พระเจ้าองค์เดียวกัน
ผืนแผ่นดินนี้มีค่ายิ่งนักในสายตาของพระองค์
แม้คนขาวก็ไม่ได้รับการยกเว้นจากชะตากรรมเดียวกันนี้
ที่สุดแล้ว เราก็อาจเป็นพี่น้องกัน ใครเลยจะรู้
"
แปลโดย อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์
ปัจจุบัน เอกสารนี้เป็นเอกสารประวัติศาสตร์ ที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่วอชิงตัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น