วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดวงตาราชันย์


 
แบนเนอร์, แคทเธอรีน. ดวงตาราชันย์.  งามพรรณ เวชชาชีวะ, แปล. กรุงเทพฯ : เพิร์ล พับลิชชิ่ง, 2552.  411 หน้า. 412 บาท.
      เป็นเรื่องราวการผจญภัยระหว่างสองโลกที่คู่ขนานกันคือ มาโลเนียและอังกฤษ โดยมาโลเนียร้อนระอุไปด้วยสงคราม ส่วนอังกฤษเต็มไปด้วยอาวุธสงคราม เทคโนโลยี และแสงไฟที่ไม่มีวันดับ ผู้เขียนบอกเล่าเรื่องราวของดินแดนมาโลเนียได้อย่างน่าติดตาม โดยให้ตัวเอกของเรื่องเป็นผู้เล่าเรื่อง
     ในเรื่องนี้เป็นภาคแรกของเรื่อง ส่วนอีก 2 ภาคยังไม่รู้ว่าจะออกมาอีกเมื่อไร เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามในมาโลเนียที่พระราชาถูกปลงพระชนม์ และโอรสต้องหนีภัยมาอยู่ในอังกฤษที่เป็นโลกคู่ขนาน ซึ่งชาวมาโลเนียคิดว่าไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงดินแดนเทพนิยาย ส่วนตัวเอกของเรื่องต้องผจญกับความยากลำบากในชีวิต แต่มีสัมผัสพิเศษที่สามารถรับรู้เรื่องราวของคนที่อยู่ที่อังกฤษได้ โดยผ่านหนังสือที่เล่าเรื่องเองได้ ทำให้ทราบถึงความเป็นไปของครอบครัวตัวเอกได้ว่าเป็นครอบครัวที่ภักดีต่อกษัตริย์ที่ถูกลอบปลงพระชนม์ ทำให้ทุกคนต้องพลัดพรากจากกัน เหลือแต่ย่าที่ดูแลเขาและน้องชาย แต่แล้วน้องชายก็มาจากไป ทำให้เกิดความเศร้าในชีวิตมากจนคิดว่าเกินกว่าจะรับมือได้ อยากจะตายตามไป ซึ่งในตอนนี้ผู้เขียนนำมาพรรณาได้อย่างถึงแก่น ให้อารมณ์ความรู้สึกได้ดีมาก ซึ่งเมื่อคิดพิจารณาอีกทีผู้เขียนกำลังพาผู้อ่านเข้าไปท่องในโลกแห่งอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคน  แต่เมื่ออารมณ์เศร้าอย่างที่สุดได้ผ่านพ้นไป ทุกคนก็ต้องยืนขึ้นเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป ผู้เขียนกำลังบอกเราว่า ทุกคนเรียนรู้ที่จะอยู่รอด
       เป็นเรื่องที่อ่านได้สนุก แต่ก็ค่อนข้างสับสน เรื่องราวจะสลับกันระหว่างดินแดนมาโลเนียและอังกฤษ ทำให้ต้องตั้งใจอ่าน การพรรณาเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกเมื่อสูญเสียคนที่รัก ทำได้ดีมาก ๆ 


ภาพของนักเขียนเรื่องนี้

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปริศนาแห่งรัตติกาล


คอนเนลลี่, ไมเคิล. ปริศนาแห่งรัตติกาล. แปลโดย: สุเมธ  เชาว์ชุติ. กรุงเทพฯ : แพรว, 2548. 402 หน้า.  260 บาท
      เทอร์รี่ แม็กเคเล็บ อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ตั้งใจวางมือหันไปใช้ชีวิตครอบครัวอันเรียบง่าย แต่เขาก็ต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อเพื่อนตำรวจหญิงร้องขอให้ช่วยวิเคราะห์ ภาพสถานที่เกิดเหตุของคดีฆาตกรรมเปลือยช่างทาสีคดีหนึ่ง ซึ่งเมื่อเขาวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียด กลับพบเงื่อนงำต้องสงสัยที่ไม่อาจปล่อยวางได้ จนในที่สุดเขาได้พบกับผู้ต้องสงสัยที่น่าหวั่นเกรง ซึ่งคือนายตำรวจบอส ที่เคยร่วมทำคดีกับเขามา แต่ทุกอย่างยิ่งซับซ้อนเข้าไปอีก เมื่อการสืบสวนของเขาเกิดไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมอีกคดีหนึ่ง ซึ่งกำลังหักเหลี่ยมเฉือนคม ชิงไหวพริบกันในชั้นศาล ยิ่งแกะรอยมากเท่าไร ปริศนาชวนท้าทายให้คลี่ปมก็ยิ่งทวีมากขึ้นเท่านั้น
     เรื่องราวอ่านสนุก มีปมปริศนาและการหักมุมต่าง ๆ อยู่ตลอดเรื่อง โดยตอนแรกเรื่องราวจะให้ผู้อ่านเห็นบุคลิกของนายตำรวจบอส ที่กำลังเป็นพยานของฝ่ายอัยการในคดีฆาตกรรมหญิงสาวคนหนึ่ง โดยมีผู้ต้องหาคือผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีอิทธิพล แต่ไม่มีหลักฐานใดนอกจากพยานแวดล้อมและคำให้การของนายตำรวจบอสเท่านั้น แต่เมื่อเทอร์รี่ สืบไปพบว่า นายตำรวจบอสเป็นผู้ต้องสงสัย ทำให้ผู้อ่านต้องลุ้นว่าจริงหรือไม่ เพราะกำลังเชียร์ให้บอสและฝ่ายอัยการเป็นผู้ชนะคดีฆาตกรรม ถ้าบอสเป็นผู้ร้ายก็น่าเสียดาย แต่แล้วผู้อ่านก็สามารถหายใจโล่งอก เพราะการทำให้บอสเป็นผู้ต้องสงสัยนั้นเกิดจากการวางแผนมาเป็นอย่างดี ในท้ายที่สุดผู้อ่านจึงรู้ว่า การเกิดคดีฆาตกรรมหญิงสาว จึงได้เกิดคดีฆาตกรรมช่างทาสีขึ้นมา เพราะผู้กำกับภาพยนตร์ต้องการชนะคดีนี้ จึงวางแผนการที่จะทำให้บอสตกเป็นผู้ต้องสงสัย จะได้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งในเรื่องนี้ ผู้แต่งมีความสามารถมากในการโยงเรื่องต่าง ๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี

ภาพไมเคิล คอนเนลลี่