คนนอก. กามู, อัลแบร์. อำพรรณ โอตระกูล, แปล. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : สามัญชน, 2533. ราคา 48 บาท
คนนอกเป็นเรื่องราวของชายชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อเมอโซ
มีอาชีพเป็นพนักงานประจําบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองอัลเจียร ประเทศอัลจีเรีย
(ในขณะนั้นยังเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศสอยู่) ที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
และมีความสุขในชีวิตอย่างธรรมดา ไม่สุขล้นเหลือ ไม่ทุกข์มากมาย ทำงานตามหน้าที่ๆ ควรจะเป็น
เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็น
2 ภาค
ภาคแรก
เรื่องราวในภาคนี้เมอโซจะพูดถึงชีวิตของตนเองและเพื่อน โดยเริ่มต้นขึ้น เมื่อเมอโซทราบข่าวการตายของแม่ ที่อาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชรา
เขาต้องไปเฝ้าศพแม่ในคืนนั้นเขา
เขาปฏิเสธที่จะให้คนเปิดฝาโลงศพเพื่อดูหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย
และยังสูบบุหรี่ต่อหน้าโลงศพด้วย
อีกทั้งยังดื่มกาแฟใส่นมและนอนหลับได้
เสร็จสิ้นพิธีฝังศพ
เขาก็กลับไปพบกับหญิงคนหนึ่งชื่อ มารี ทั้งสองไปว่ายน้ำและดูหนังด้วยกัน
ทั้งสองเริ่มสนิทขึ้นเรื่อยๆ มารีถามกับเขาว่ารักเธอรึเปล่า
เขาไม่ตอบว่ารักหากแต่เขาบอกว่าเขาพร้อมจะแต่งงานกับเธอหากเธอต้องการ
เมอโซมีเพื่อนบ้านสองคน
คนหนึ่งเป็นชายแก่ชื่อซาลามาโน เลี้ยงหมาที่เป็นหมาขี้เรื้อน ดูเหมือนจะไม่ดีต่อสุนัขเท่าไร
เขาไม่ยอมให้สุนัขหยุดฉี่ ไม่ยอมพาเดินออกนอกเส้นทาง เมื่อมันฝืนเขาก็จะตีและด่ามันจนมันหมอบด้วยความกลัว
แต่เขาก็รักมัน เพราะเขามักจะพาหมาขี้เรื้อนของเขาไปเดินเล่นสองครั้งต่อวัน
เป็นกิจวัตรที่ไม่เคยเปลี่ยน เขาได้สุนัขตัวนี้มาหลังจากภรรยาตายได้ไม่นาน
วันหนึ่ง เมื่อหมาขี้เรื้อนของเขาหายไป เขาก็กระวนกระวายและพยายามตามหามัน สุดท้าย
เมอโซได้ยินเสียงประหลาดลอดช่องฝากระดาน ทำให้เขารู้ว่า ตาแก่ซาลามาโนร้องไห้
ส่วนอีกคนชื่อเรมอนด์มีเมียเป็นคนอาหรับ
ซึ่งเขาจับได้ว่ามีชู้ ทำให้อยากลงโทษเธอ
เรมอนด์จึงปรึกษาเมอโซว่าจะทำอย่างไรถ้าเป็นเขา สุดท้าย เมอโซลงมือร่างจดหมายฉบับหนึ่งเพื่อด่าว่าหญิงสาวคนนั้นให้แก่เรมอนด์
นั่นทำให้เรมอนด์ประทับใจมาก และถือเมอโซเป็นเพื่อนคนหนึ่ง
เมอโซ
มารี และเรมอนด์ ไปเที่ยวทะเลที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ก่อนออกเดินทาง
พวกเขารู้สึกได้ว่ามีกลุ่มชาวอาหรับติดตามอยู่ เรมอนด์คาดได้ทันทีว่า
นั่นเป็นพี่ชายของเมียของเขาที่กำลังมีเรื่องกันอยู่
และพวกเขาได้เจอชาวอาหรับกลุ่มนั้นอีกเมื่อเดินทางไปถึงทะเล จนเมื่อต้องปะทะกัน เมอโซซึ่งรู้จักนิสัยเพื่อนดี
พูดจาปรามเพื่อนเพื่อให้เหตุการณ์ไม่รุนแรง เขาสามารถเอาปืนมาเก็บเอาไว้ที่ตัวได้
แทนที่จะให้เป็นเรมอนด์ที่เป็นคนถือปืนเอาไว้
การปะทะกันครั้งนั้นต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บ เมื่อเรื่องยุติลง ต่างคนแยกจากกัน
แต่แล้วแทนที่เมอโซจะขึ้นบ้านพักไปกับเรมอนด์ เมอโซกลับออกมาเดินที่ชายหาดเพียงลำพังอีกครั้ง
และบังเอิญเจอกับชาวอาหรับกลุ่มเดิม พระอาทิตย์ส่องแสงแรงจ้า ร่างกายที่เหงื่อชุ่ม
โดยไม่มีเหตุผลใดอธิบายได้ เขาเหมือนเห็นแสงสะท้อนของใบมีดที่กระทบกับดวงอาทิตย์
มันทำให้เขาคว้าปืนออกมายิงหนึ่งนัดจนอีกฝ่ายล้มลง และยิงซ้ำต่อไปอีก 4 นัด
ภาคสอง เมอโซจะเลาถึงชีวิตของตนภายหลังถูกจับกุมในข้อหาฆ่าคนตาย
โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการไตสวนคดีของเขาในศาล ซึ่งผลการสอบสวนกลับเป็นเรื่องที่ว่า
ทำไมเมอโซจึงให้แม่ไปพักอยู่ที่บ้านพักคนชรา ทำไมเมอโซจึงไม่ร่ำลาแม่ที่หลุมศพ
ทำไมเมอโซจึงไม่รู้อายุของแม่ ทำไมเขาจึงไม่ร้องไห้ในพิธีศพ และไปว่ายน้ำหลังจากวันฝังศพของแม่ และเริ่มมีความสัมพันธ์กับหญิงคนหนึ่ง
ซ้ำยังไปดูหนังตลก
ความเห็นของอัยการ
ที่มีต่อคดีฆาตกรรมของเมอโซเป็นว่า "คดีนี้จึงเป็นคดีที่สกปรกโสมมที่สุดในบรรดาที่เคยมีมา
เพราะจำเลยเป็นผู้มีศีลธรรมเสื่อมอย่างมหันต์"
ผู้พิพากษา
ได้กล่าวกับเขาด้วยฐานความเชื่อของชาวคริสเตียน "ผมไม่เคยเห็นดวงวิญญาณใดชาเย็นเหมือนดวงวิญญาณของคุณ
อาชญากรที่มาอยู่ต่อหน้าผมมักจะร้องไห้ต่อหน้ากางเขน
ภาพแห่งความทุกข์ของพระองค์เสมอ"
ทนายของเมอโซ
เกลี้ยกล่อมให้เขาแสดงความเสียใจต่อการจากไปของแม่ต่อหน้าศาล แต่เมอโซเลือกจะแสดงออกในแบบที่เขาเป็น
ไม่ใช่แบบที่สังคมคาดหวังจะเห็น
คดีดำเนินไปโดยที่เมอโซมีส่วนร่วมน้อยมาก ดูเหมือนว่าเขากลายเป็นผู้สังเกตการณ์ในคดีที่เขาเป็นจำเลยเอง ซึ่งลงเอยด้วยคําตัดสินประหารชีวิต มิใช่โทษฐานที่ฆ่าชาวอาหรับตาย แต่โทษฐานที่ “ฆ่ามารดาทางจิตใจ”
คดีดำเนินไปโดยที่เมอโซมีส่วนร่วมน้อยมาก ดูเหมือนว่าเขากลายเป็นผู้สังเกตการณ์ในคดีที่เขาเป็นจำเลยเอง ซึ่งลงเอยด้วยคําตัดสินประหารชีวิต มิใช่โทษฐานที่ฆ่าชาวอาหรับตาย แต่โทษฐานที่ “ฆ่ามารดาทางจิตใจ”
อัลแบร์ กามู |
เรื่องมาจบลงในวันสุดท้าย
ก่อนที่เมอโซจะถูกนําไปสู่ลานประหารชีวิต
นวนิยายเล่มนี้เป็นบทประพันธ์เรื่องเด่นของอัลแบร์
กามู (1913-1960) ผู้ได้รับรางวัลโนเบลในปี 1957 ภาคภาษาไทยออกเผยแพร่ในปี 2510 จากฝีมือแปลของอําพรรณ โอตระกูล หนังสือเล่มนี้เป็นแรงบันดาลใจสําคัญต่อนักศึกษาและปัญญาชนในยุคที่เรียกกันต่อมาว่า
“ยุคฉันจึงมาหาความหมาย”