ร้านหนังสือ 24/7 ของคุณเพนุมบรา (Mr. Penumbra' 24-hour bookstore) สโลน, โรบิน. แปลโดย ศรรวริศา เมฆไพบูลย์. ปทุมธานี : กำมะหยี่, 2557. 297 หน้า. ราคา 260 บาท.
เคลย์
เจนนอน เป็นพนักงานกะดึกที่ “ร้านหนังสือ 24
ชั่วโมงของคุณเพนุมบรา” ซึ่งเป็นร้านหนังสือเล็ก
ๆ ในนครซานฟรานซิสโก ร้านนี้มีมุมหนึ่งเป็นหนังสือมือสอง แต่อีกมุมจะเป็นชั้นหนังสือที่ลึกและสูงเหมือนป่าต้นสน
ที่เคลย์เรียกว่าชั้นหนังสือสุดซอย และเป็นส่วนที่คุณเพนุมบราไม่อนุญาตให้พนักงานร้านเปิดอ่านเด็ดขาด
มีหน้าที่แค่หยิบหนังสือมุมนี้ให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิก ซึ่งต้องนำเล่มเก่ามาคืนก่อน
จึงจะยืมเล่มใหม่ออกไปได้ นอกจากนี้เคลย์ยังมีหน้าที่จดบันทึกเหตุการณ์ไว้ในสมุดบันทึกประจำวัน
แต่ร้านนี้มักจะไม่มีลูกค้าเข้าร้าน เคลย์จึงคิดเขียนโค้ดเพื่อทำ Data Visualization ด้วยข้อมูลจากสมุดที่เขาต้องบันทึกทุกวันมาทำเป็นภาพสามมิติในเครื่องแมคของตัวเอง
ทำให้เคลย์ได้พบว่าการยืมหนังสือเหล่านั้นมีแพทเทิร์นที่ทำให้เกิดภาพบางอย่างขึ้นมา
และต่อมาได้ร่วมมือกับแคต โพเทนต์ สาวทำงานที่ Google ซึ่งก็ได้นำเทคโนโลยีจาก
Google มาช่วย ทำให้ได้หน้าของผู้ก่อตั้งสมาคมลับที่ชื่อว่า “สมาคมสันหนังสือสนิท” จากนั้นเคลย์และเพื่อน ๆ
ก็เข้าไปสู่สมาคมลับที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครนิวยอร์ก
สมาคมสันหนังสือสนิทเป็นสมาคมที่พยายามไขปริศนาจากโคเด็กซ์วิเท
(หนังสือชีวประวัติ) ของผู้ก่อตั้งสมาคมที่ชื่อ อัลดัส แมนิวเทียส มาหลายร้อยปี เพื่อหาความลับของการมีชีวิตนิรันดร์
ซึ่งเคลย์และแคตสนใจที่จะร่วมไขปริศนาด้วย แต่เป็นไปในทางนำเทคโนโลยีจาก Google
มาช่วยค้นหาปริศนานั้น แต่แล้วความลับทั้งหมดกลับไปอยู่ที่แม่พิมพ์ต้นแบบของกริฟโฟ
แกร์ริตส์ซูนที่เป็นเพื่อนรักของ อัลดัส แมนิวเทียส
ที่ส่งสารแห่งความเป็นนิรันดร์มา
เป็นหนังสือที่นำเอาบุคคลจริง เหตุการณ์จริง หนังสือจริง
มาผสมผสานกับองค์กรขนาดยักษ์อย่าง Google บวกกับจินตนาการของผู้เขียนอย่างสมาคมลับได้อย่างพอเหมาะ
เป็นหนังสือที่อ่านสนุก แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขันตลอดเวลา แม้จะมีเรื่องสมาคมลับ
การค้นหาชีวิตนิรันดร์ แต่ไม่มีเรื่องความรุนแรง อาฆาต
ยิ่งกว่านั้น เรื่องนี้ยังพาผู้อ่านเข้าไปดูการทำงานของ
Google เลยทีเดียว และน่าตื่นตายิ่งขึ้นในฉากที่ต้องไขปริศนาโคเด็กซ์วิเทของอัลดัส
แมนิวเทียส ด้วยการระดมเครื่องคอมพิวเตอร์ของ Google มาช่วยกันทำงานให้ ทำให้การไขปริศนาว่าด้วยชีวิตนิรันดร์ที่ต้องใช้เวลาเป็นร้อย
ๆ ปี ที่สมาชิกของสมาคมทำอยู่ เหลือเพียง 1 วัน
จริง ๆ
ตอนจบของหนังสือเรื่องนี้ค่อนข้างหักมุม เพราะการไขปริศนาจบลงแบบง่าย ๆ ไม่ต้องอาศัยศูนย์ข้อมูล
เทคโนโลยีทันสมัยใด ๆ การไขปริศนาอยู่ที่ตัวพิมพ์ต้นแบบของแกร์ริตส์ซูนนั่นเอง เพราะการประดิษฐ์ตัวพิมพ์นี้
ก่อให้เกิดการทำหนังสือ และแม้แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ต้องใช้ตัวอักษรแกร์ริตส์ซูนที่ถูกกำหนดเป็นค่ามาตรฐานของตัวอักษร
ทำให้แกร์ริตส์ซูนยังอยู่ทุก ๆ ที่รอบตัวเรา มีความเป็นอมตะตลอดกาล
“เรื่องเล่าอันงดงามที่เสริมด้วยการใช้ข้อเท็จจริงอย่างกล้าหาญ (เช่น
มีกูเกิล และสำนักงานจริงในเรื่อง) นำเราสู่โลกลี้ลับแห่งความลวงและการคาดเดา
เป็นประสบการณ์การอ่านที่ทรงพลังและอัศจรรย์เกินปฏิเสธได้”
—จอร์จ ซอนเดอร์, นิตยสาร บลิป—นิก ฮาร์คาเวย์
“หนังสือมองโลกในแง่ดีเล่มนี้
พูดถึงการพบกันของเทคโนโลยีสมัยใหม่และปริศนายุคกลาง
เป็นแผนที่นำไปสู่ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่”
โรบิน สโลน ผู้แต่งหนังสือนี้ |