วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561


แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องคำสาป ภาคหนึ่งและสอง : บทละครเวที ฉบับซ้อมใหญ่ (Harry Potter and the cursed child part one and two : playscript) โรว์ลิ่ง, เจ.เค. ธอร์น, แจ็ค, ทิฟฟานี, จอห์น. แปลโดย สุมาลี. กรุงเทพฯ : นานมีบุคส์, 2559. 368 หน้า. ราคา  บาท.






"แผลเป็นนั้นไม่ได้ทำให้แฮร์รี่เจ็บปวดมานานถึงสิบเก้าปีแล้ว ทุกอย่างลงเอยด้วยดี" นั่นคือสิ่งที่โลกเวทมนตร์และชาวมักเกิ้ลรับรู้เมื่อเหตุการณ์ใน "แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต" ปิดฉากลง...แต่ใครจะแน่ใจได้ว่าทุกอย่างลงเอยด้วยดี และ "คนที่เราก็รู้ว่าใคร" จากไปแล้วจริง ๆ

    นี่คือเรื่องราวภาคที่แปด...สิบเก้าปีต่อมา เมื่อ "อัลบัส พอตเตอร์" ลูกชายคนกลางของแฮร์รี่เริ่มไปเข้าเรียนฮอกวอตส์วันแรก อะไร ๆ ไม่เป็นไปอย่างที่คิดตั้งแต่บนรถไฟที่อัลบัสเป็นเพื่อนกับสกอร์เปียส ลูกชายของเดรโก มัลฟรอย ทำให้โรส (ลูกสาวรอนกับเฮอร์ไมโอนี่)โกรธ และยิ่งผิดพลาดอย่างหนักเมื่ออัลบัสสวมหมวกคัดสรรที่ให้อยู่บ้านสลิธีลิน ในขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องทายาทโวลเดอมอร์แพร่กระจายไปทั่วสังคมพ่อมด สร้างความหวาดกลัวว่าฝันร้ายในอดีตกำลังจะย้อนกลับมา ที่สำคัญ แผลเป็นของแฮร์รี่เกิดเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับที่ความสัมพันธ์ของเขากับลูกชายก็ย่ำแย่ลงทุกขณะ และเมื่ออัลบัส พอตเตอร์ตัดสินใจว่า บางอย่างที่พ่อทำในอดีตคือ
ความผิดพลาด และเขาต้องยื่นมือเข้าไปแก้ไข 
       การผจญภัยครั้งใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เอมอส ดิกเกอรี่ (พ่อของเซดริกมาหาแฮร์รี่ที่บ้านพร้อมกับเดลฟี่ (Delphi) คนดูแล เพื่อขอให้แฮร์รี่ใช้เครื่องย้อนเวลาที่กระทรวงเวทมนต์ครอบครองย้อนเวลากลับไปช่วยชีวิตเซดริก ซึ่งแฮร์รี่ปฏิเสธ แต่อัลบัสแอบได้ยิน และทำให้รู้จักเดลฟี่ด้วย ก่อนที่อัลบัสจะกลับไปเรียนที่ฮอกวอตส์ แฮร์รี่พยายามปรับความเข้าใจ ด้วยการให้ของแก่เขา 2 อย่าง อย่างแรกคือ Love Potion ที่รอนฝากมาให้ และผ้าห่มเด็กเก่า  ที่แม่ของแฮร์รี่ใช้ห่อแฮร์รี่ในคืนที่ถูกฆ่า แต่อัลบัสกลับไม่สนใจ และทะเลาะกับแฮร์รี่อีก  ทำให้อัลบัสโยนผ้าห่มไปชนกับ Love Potion จนมันกระจายไปทั่วผ้าห่ม
ระหว่างทางไปฮอกวอตส์ อัลบัสชวนสกอร์เปียส ไปเอาเครื่องย้อนเวลาที่กระทรวง เพื่อไปช่วยเซดริก โดยกระโดดรถไฟหนีโรงเรียน ไปหาเดลฟี่ซึ่งได้ทำน้ำยาสรรพรสให้ เพื่อปลอมตัวเป็นเฮอร์ไมโอนี่ รอน และแฮร์รี่ บุกเข้ากระทรวงขโมยเครื่องย้อนเวลามาได้ และจะใช้เครื่องย้อนเวลานี้ให้พวกเขาไปขัดขวางไม่ให้เซดริกชนะการแข่งขันไตรภาคี จะได้ไม่ต้องเจอโวลเดอมอร์ และไม่ต้องตาย ขณะเดียวกันแฮร์รี่ จินนี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ละเดรโกก็กำลังตามหาเด็ก 2 คนนี้อยู่เช่นกัน
      ในการย้อนเวลานี้ อัลบัสกับสกอร์เปียสใช้คาถาชิงไม้กายสิทธิ์ของเซดริกมาได้ ทำให้เซดริกไม่ชนะในภารกิจแรกนี้ แต่ระหว่างนั้นเครื่องย้อนเวลาได้ดึงเด็ก 2 คนนี้กลับมายังปัจจุบัน ทำให้พวกเขารู้ว่าอยู่ในอดีตได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น และทำให้อัลบัสได้รับบาดเจ็บด้วย เมื่ออัลบัสหายดีได้เข้าเรียนปกติกลับพบว่าปัจจุบันได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ รอนแต่งงานกับปัทมา พาติล และโรสไม่ได้เกิด เฮอร์ไมโอนี่เป็นอาจารย์จอมเข้มงวด แต่เซดริกก็ตายอยู่ดี อัลบัสสืบจนรู้ว่าพวกเขาเป็นต้นเหตุให้อดีตเปลี่ยนไป เพราะจากการที่ไปในช่วงแข่งขัน ทำให้เฮอร์ไมโอนี่สงสัยในพวกเขา และไม่ได้เป็นคู่เต้นรำของวิคเตอร์ ครัม จนทำให้รอนไม่หึง และไปงานเต้นรำกับปัทมา และเมื่อโตขึ้นก็แต่งงานกัน
เดลฟี่แอบมาพบกับอัลบัสและขอให้คุยกับสกอร์เปียส ทั้งสองแอบมาพบกันที่ห้องน้ำหญิง ทำให้ได้เจอกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ จึงรู้ว่าท่อตรงนี้ต่อกับทะเลสาบที่เคยเป็นภารกิจที่สอง พวกเขาจึงย้อนเวลาไปเพื่อไปทำให้เซดริกล้มเหลวอีกครั้ง ด้วยการใช้คาถาทำให้เขากลายเป็นลูกบอลลูนลอยออกไปนอกทะเลสาบ ระหว่างนั้นแฮร์รี่กับเดรโกได้กลับมาที่ฮอกวอตส์จนไปเจอเมอร์เทิล จึงรู้ว่าพวกเขามีเครื่องย้อนเวลาและกลับไปหาเซดริก พอหมดเวลาสกอร์เปียสกลับมายังปัจจุบันอีกครั้งเพียงคนเดียว และพบว่า โดโลเรส อัมบริดจ์เป็นอาจารย์ใหญ่ที่ฮอกวอตส์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนศาสตร์มืด มีผู้คุมวิญญาณลอยเต็มไปหมด แฮร์รี่แพ้สงครามและถูกฆ่าตาย ทำให้อัลบัสไม่ได้เกิดมา 
     สกอร์เปียสได้พบกับเดลฟี่ และได้รู้ว่าเดลฟี่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด เดลฟี่ได้ย้อนเวลากลับมาเพื่อจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย ทำให้สกอร์เปียสได้พบกับอัลบัสอีกครั้ง ทั้งสองพบว่าพวกเขาอยู่ในอดีต หนึ่งวันก่อนที่โวลเดอร์มอร์จะบุกมาฆ่าครอบครัวพอตเตอร์ พวกเขาจึงรีบเดินทางไปที่ก็อดดริกส์โฮลโลว์ เพื่อหยุดยั้งเดลฟี่ ระหว่างนั้นพวกแฮร์รี่กำลังตามหาลูก  ซึ่งตอนนั้นเดรโกมาบอกแฮร์รี่ว่าเขามีเครื่องย้อนเวลาของจริงที่ไม่ใช่ของต้นแบบที่ย้อนเวลาได้เพียงห้านาที แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าลูก  หลงอยู่ในช่วงเวลาใด
    อัลบัสพยายามหาวิธีติดต่อกับพ่อแม่ในปัจจุบัน และเขาก็รู้ว่าจะสื่อสารกับพ่อได้โดยผ่านทางผ้าห่มเก่าที่ใช้ห่อทารกแฮร์รี่ ซึ่งเขาทิ้งไว้ที่ห้องตอนทะเลาะกับพ่อ และรู้ว่ามันเปื้อน Love Potion อัลบัสต้องผสมปรุงยาและหาไม้กายสิทธิ์เพื่อส่งข้อความถึงพ่อ และในปัจจุบันข้อความที่อัลบัสทำในอดีต ก็ปรากฏที่ผ้าห่มว่า “Dad, help, Godric’s Hollow. 31/10/81” ทำให้พวกแฮร์รี่ตามหาลูกพบ และวางแผนป้องกันไม่ให้เดลฟี่พบกับโวลเดอมอร์ โดยแฮร์รี่ปลอมตัวเป็นโวลเดอมอร์ เพื่อล่อให้เดลฟี่ออกมา เมื่อเธอออกมา ได้บอกว่าเธอคือลูกสาวของเขากับเบลลาทริกต์ที่มาจากอนาคต เธอสามารถพูดภาษาพาร์เซลรวมทั้งเหาะในอากาศได้ คาถาปลอมตัวเสื่อม ทำให้แฮร์รี่ต้องต่อสู้กับเดลฟี่ ในที่สุดพวกแฮร์รี่ได้ออกมาช่วยจับเดลฟี่ไว้ได้ เธอขอร้องและบอกแฮร์รี่ว่าเธอเพียงแค่อยากเจอพ่อเท่านั้น ตอนนั้น
โวลเดอมอร์กำลังมาถึง แฮร์รี่ลังเลเพราะพ่อแม่ของเขากำลังจะถูกฆ่าและเขาทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาไม่ต้องการเปลี่ยนอดีต พวกเขาได้ใช้เครื่องย้อนกลับในปัจจุบัน และทุกอย่างก็กลับมาสู่สภาวะปกติ

    แปลจากต้นฉบับผลงานชิ้นใหม่ของ "J.K. Rowling, John Tiffany, Jack Thorne" ในรูปแบบ
บทละครเวทีที่เขียนบทโดย Jack Thorne
    "แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป บทละครเวที" ตีพิมพ์ครั้งแรกในฉบับซ้อมใหญ่ เผยแพร่พร้อมละครเวทีซึ่งเปิดแสดงที่เวสต์เอนด์ ลอนดอน เมื่อฤดูร้อนปี ค.ศ.2016 ละครได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามทั้งจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ในขณะที่บทละครก็กลายเป็นหนังสือขายดีระดับโลกทันที บทละครเวทีฉบับสมบูรณ์นี้ มีเนื้อหาเพิ่มเติมจากฉบับซ้อมใหญ่ รวมถึงบทพูดล่าสุดที่ใช้จริงบนเวทีด้วย


วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561


ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ (The miracles of the Namiya general store). เคโงะ, ฮิงาชิโนะ. แปลโดย กนกวรรณ เกตุชัยมาศ. กรุงเทพฯ : น้ำพุสำนักพิมพ์, 2560. 506 หน้า. ราคา 295 บาท

ภาพหน้าปก

    หนังสือเรื่องนี้ เริ่มเรื่องด้วยเด็กหนุ่มหัวขโมยสามคนเข้าไปกบดานในร้านชำร้าง แล้วจู่ๆ ก็มีจดหมายลึกลับถูกหย่อนเข้ามาในร้าน มันดูเหมือนจดหมายธรรมดา จนกระทั่งพวกเขาเปิดอ่านและพบว่าเป็นจดหมายที่ส่งมาจากอดีตราวสี่สิบปีก่อน ถึงร้านชำนามิยะ ที่ดูเหมือนว่าร้านชำแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องรับปรึกษาปัญหาทุกรูปแบบ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมร้านชำนี้จึงติดต่อกับอดีตได้ แต่เมื่อได้อ่านจดหมายแล้ว พวกเขาก็เขียนคำแนะนำให้และส่งกลับไป ซึ่งก็ได้คำตอบ-คำถามกลับมาเหมือนเดิม และในตอนท้ายเด็กหนุ่ม 3 คนยังพบว่าบ้านที่พวกเขาได้เข้าไปขโมยของ และวิ่งหนีมาหลบที่ร้านชำนี้ เป็นคนที่ได้นำคำแนะนำของพวกเขาไปปฏิบัติจนร่ำรวยในปัจจุบัน เพราะได้อ่านจดหมายจากกระเป๋าที่พวกเขาขโมยมา เป็นจดหมายขอบคุณที่เจ้าของจดหมายตั้งใจจะมาส่งที่ร้านชำ แต่ถูกขโมยเสียก่อน
ฮิงาชิโนะ เคโงะ
     เป็นเรื่องที่ผู้เขียนวางพล็อตเรื่องได้ดีเพราะเมื่อตัวละครแต่ละตัวเขียนจดหมายมาขอคำปรึกษาจะเป็นมิติแบน ไม่เห็นความเป็นส่วนตัว แต่อีกฉากจะค่อย เล่าเรื่องให้เห็นมิติที่กว้างขึ้น แต่ละคนมีชีวิตที่น่าสนใจ และน่าติดตาม ทำให้ผู้อ่านรู้สึกไปกับตัวละครแต่ละคนได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้ด้วย
    แม้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับความเหนือจริง ที่มีมิติเวลาในอดีตและอนาคตมาบรรจบกัน แต่เนื้อเรื่องเป็นไปในทิศทางที่ตัวละครส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสถานสงเคราะห์มารุมิตสึเอ็น ซึ่งในตอนท้ายมีการเปิดเผยว่าผู้ก่อตั้งสถานสงเคราะห์แห่งนี้ เคยเป็นคนรักเก่าของเจ้าของร้านชำนามิยะ

 คนที่เขียนมาขอคำปรึกษาส่วนใหญ่มักมีคำตอบในใจตัวเองอยู่แล้ว ที่เขียนมาก็เพราะอยากได้รับคำยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูกต้อง การที่บางคนส่งจดหมายมาอีกหลังจากได้อ่านคำตอบแล้ว คงเป็นเพราะคำตอบที่ได้รับแตกต่างไปจากที่ตัวเองคิดนั่นเอง (หน้า 186
   หนังสือเรื่อง "ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ" มียอดขายกว่า12 ล้านเล่ม และมีการสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งในญี่ปุ่นและจีน
ดูภาพยนตร์ได้ที่ https://www.dailymotion.com/video/x6jyfg6