วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562


ซ้อนกลโจรกรรม (The heist). ซิลวา, แดเนียล. แปลโดย ขจรจันทร์. กรุงเทพฯ : ไครม์แอนด์มิสทรี, 2560. 463 หน้า. ราคา 385 บาท

อดีตสายลับและนักการทูตอังกฤษชื่อแบรดชอว์ถูกสังหารที่บ้านพักในทะเลสาบโคโม ประเทศอิตาลี  และอิเชอร์วูดซึ่งเป็นเพื่อนของอัลลอนไปพบศพเข้า ทำให้อิเชอร์วูดเป็นผู้ต้องสงสัย จนทำให้กาเบรียลต้องออกมาช่วยเพื่อน ด้วยการติดตามงานศิลปะ Caravaggio ที่ถูกขโมยไปนานหลายสิบปีเป็นการแลกเปลี่ยน กาเบียลได้ขโมยงานของแวนโกะ เพื่อมาหลอกล่อผู้ซื้อ และใช้องค์การของอิสราเอลมาช่วยในงานนี้  กาเบียลค้นพบว่าศิลปะที่ถูกขโมยมาเป็นไปเพื่อการซ่อนเงินให้กับ Bashar al-Assad เผด็จการแห่งซีเรีย โดยดำเนินงานผ่านธนาคารเอกชนในเมืองลินซ์ ประเทศออสเตรีย ทำให้กาเบรียลต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากชาวซีเรียสัญชาติเยอรมันคนหนึ่งที่ทำงานในธนาคารแห่งนั้น และในที่สุดก็สืบพบว่าภาพของ Caravaggio อยู่ที่ใด


การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ และให้รายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับการติดต่อทางศิลปะที่ถูกขโมย และการฟอกเงินของผู้ปกครองเผด็จการ นอกจากนั้นยังมีความรู้ทางประวัติศาสตร์ศิลปะ ให้ความรู้เกี่ยวกับภาพวาดและศิลปินที่มีชื่อเสียงอีกด้วย




สายลับอังกฤษ (Th English spy). ซิลวา, แดเนียล. แปลโดย ขจรจันทร์. กรุงเทพฯ : ไครม์แอนด์มิสทรี, 2560. 485 หน้า. ราคา 395 บาท.
                     
เรื่องที่ออกเป็นมาต่อจาก The heist "ซ้อนกลโจรกรรม".
ในเรื่องนี้เริ่มต้นจาก
เจ้าหญิงอดีตภรรยาของมกุฎราชกุมารอังกฤษผู้เป็นที่รักของคนทั่วโลกสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุสยองกลางทะเลหน่วยสืบราชการลับอังกฤษพบว่าเหตุการณ์นั้นอาจไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่คิด และมีผู้ต้องสงสัยคือ เอมอน ควินน์ อดีตมือวางระเบิดหมายเลขหนึ่งของไออาร์เอ ชื่อนี้ทำให้เกเบรียล อัลลอน ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเกเบรียลรู้จักกับคริส เคลเลอร์ อดีตสายลับ SAS และมีความแค้นกับเอมอน ควินน์ ทั้งสองร่วมกันสืบจนได้พบความจริงว่าการลอบสังหารเจ้าหญิงเป็นเพียงฉากบังหน้าเท่านั้น แต่เบื้องหลังคือหน่วยสืบราชการลับของรัสเซียได้ว่าจ้างเอมอน ควินน์ ให้ฆ่าเกเบรียล เพื่อแก้แค้นที่เกเบรียลได้ทำลายแผนการแบล็กเมล์นายกรัฐมนตรีอังกฤษเพื่อให้ได้สัมปทานน้ำมันในทะเลเหนือของอังกฤษ (อยู่ในเล่มชื่อ The English Girl (ลูบคมราชสีห์ขณะที่ติดตามไล่ล่า เอมอน ควินน์ ทั้งเกเบรียลและคริส กลับถูกเอมอนวางแผนซ้อนเข้าไปอีก จนเกิดระเบิดสังหารที่กรุงลอนดอนที่มีคนตายจำนวนมาก จนในที่สุดทั้งเกเบรียลและคริส ต้องเข้าไปถึงไอร์แลนด์เหนือถิ่นของเอมอน มีการสู้รบกับนักรบเก่าของไออาร์เออย่างดุเดือด แต่แล้ว
เอมอนก็หนีรอดไปได้ 

หนังสือตอนนี้อ่านได้สนุกเหมือนตอนอื่น ทั้งการวางแผน แผนซ้อนแผน การติดตามไล่ล่า การยิงต่อสู้อย่างดุเดือด และการวางระเบิดที่น่ากลัว เพราะตัวนำในตอนนี้คือเอมอน ควินน์ นักวางระเบิดที่แม่นยำของไออาร์เอ ซึ่งในตอนท้าย ผู้อ่านจะทราบว่า เอมอน ได้วางระเบิดรถยนตร์ของเกเบรียลที่เวียนนาด้วย ซึ่งทำให้ลูกชายของเขาตายด้วย นอกจากนี้จะได้รู้จักคริสโตเฟอร์ เคลเลอร์ ที่เป็นนักฆ่าในตอนอื่น แต่มาทำงานร่วมกับเกเบรียลในตอนนี้ได้มากขึ้น




วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เกาะปีศาจฆาตกรรม. เอะโดะงะวะ รัมโปะ, เขียน. ฉวีวงศ์ อัศวเสนา, แปล. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : เจคลาส, 2560. 304 หน้า. ราคา 265 บาท.



    หนังสือเรื่องนี้ใช้วิธีการเล่าเรื่องผ่านตัวเอกของเรื่องที่ชื่อชายหนุ่มชื่อมิโนะอุระ คินโนะซุเกะ ชายผู้มีผมขาวโพลนทั้งหัวทั้ง ๆ ที่ยังหนุ่มแน่น ที่ได้พบเจอเหตุฆาตกรรมโดยเริ่มจากหญิงสาวคนรักถูกฆาตกรรมในห้องปิดตาย และเมื่อไปติดต่อรุ่นพี่ที่เป็นนักสืบมือสมัครเล่นให้มาช่วยสืบคดี รุ่นพี่คนนั้นก็ถูกฆ่าตายกลางชายหาดท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่กลับไม่มีใครเห็นตัวฆาตกร ความสูญเสียทั้งคนรักและเพื่อนทำให้มิโนะอุระพยายามประติดประต่อเรื่อง แล้วรู้สึกว่าผู้ต้องสงสัยมีคนเดียวคือ โมะโระโตะ มิชิโอะ ชายที่ตกหลุมรักตนเองอยู่ แต่เมื่อไปหาโมะโระโตะ กลับพบว่าเรื่องราวมีความซับซ้อนกว่าที่เขาคิด
ภาพผู้เขียน -เอะโดะงะวะ รัมโปะ
   โมะโระโตะได้บอกเรื่องการฆาตกรรมทั้งหมดว่าอาจเป็นฝีมือของพ่อผู้พิการของเขาเอง ทำให้มิโนะอุระต้องร่วมทีมสืบหาความจริงกับโมะโระโตะ และเดินทางไปสู่เกาะลึกลับที่บิดาของเขาอาศัยอยู่ และเมื่อไปถึงเกาะต้องพบความจริงอันน่ากลัวว่า เหตุฆาตกรรมทั้งหมดเกิดมาจากลายแทงสมบัติในเกาะนั้นนั่นเอง
   เป็นนิยายสืบสวนที่อ่านสนุก แม้เหตุฆาตกรรมจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ถ้าเทียบกับหนังสือชุดคินดะอิจิ (คินดะอิจิ โคะสุเกะ) ที่มีเรื่องราวซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า แต่เนื่อหาโดยรวมจะมุ่งที่การเล่าเรื่องที่เป็นอารมณ์และจิตใจ นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย ซึ่งผู้เขียนเขียนได้ดี ด้วยภาษาที่สวยงาม ซึ่งนิยายเรื่องนี้เขียนก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเด็นชายรักชายยังไม่ได้รับการยอมรับจากคนในสังคมยุคนั้น ก็จัดว่าผู้เขียนมีความกล้าหาญในการนำเสนอเรื่องแบบนี้
ก่อนที่มิชิโอะจะสิ้นใจ เขาไม่เรียกทั้งชื่อพ่อและชื่อแม่ ได้แต่กอดจดหมายของคุณไว้แน่น และเรียกชื่อคุณคนเดียวจนวาระสุดท้าย


วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561


แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องคำสาป ภาคหนึ่งและสอง : บทละครเวที ฉบับซ้อมใหญ่ (Harry Potter and the cursed child part one and two : playscript) โรว์ลิ่ง, เจ.เค. ธอร์น, แจ็ค, ทิฟฟานี, จอห์น. แปลโดย สุมาลี. กรุงเทพฯ : นานมีบุคส์, 2559. 368 หน้า. ราคา  บาท.






"แผลเป็นนั้นไม่ได้ทำให้แฮร์รี่เจ็บปวดมานานถึงสิบเก้าปีแล้ว ทุกอย่างลงเอยด้วยดี" นั่นคือสิ่งที่โลกเวทมนตร์และชาวมักเกิ้ลรับรู้เมื่อเหตุการณ์ใน "แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต" ปิดฉากลง...แต่ใครจะแน่ใจได้ว่าทุกอย่างลงเอยด้วยดี และ "คนที่เราก็รู้ว่าใคร" จากไปแล้วจริง ๆ

    นี่คือเรื่องราวภาคที่แปด...สิบเก้าปีต่อมา เมื่อ "อัลบัส พอตเตอร์" ลูกชายคนกลางของแฮร์รี่เริ่มไปเข้าเรียนฮอกวอตส์วันแรก อะไร ๆ ไม่เป็นไปอย่างที่คิดตั้งแต่บนรถไฟที่อัลบัสเป็นเพื่อนกับสกอร์เปียส ลูกชายของเดรโก มัลฟรอย ทำให้โรส (ลูกสาวรอนกับเฮอร์ไมโอนี่)โกรธ และยิ่งผิดพลาดอย่างหนักเมื่ออัลบัสสวมหมวกคัดสรรที่ให้อยู่บ้านสลิธีลิน ในขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องทายาทโวลเดอมอร์แพร่กระจายไปทั่วสังคมพ่อมด สร้างความหวาดกลัวว่าฝันร้ายในอดีตกำลังจะย้อนกลับมา ที่สำคัญ แผลเป็นของแฮร์รี่เกิดเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับที่ความสัมพันธ์ของเขากับลูกชายก็ย่ำแย่ลงทุกขณะ และเมื่ออัลบัส พอตเตอร์ตัดสินใจว่า บางอย่างที่พ่อทำในอดีตคือ
ความผิดพลาด และเขาต้องยื่นมือเข้าไปแก้ไข 
       การผจญภัยครั้งใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เอมอส ดิกเกอรี่ (พ่อของเซดริกมาหาแฮร์รี่ที่บ้านพร้อมกับเดลฟี่ (Delphi) คนดูแล เพื่อขอให้แฮร์รี่ใช้เครื่องย้อนเวลาที่กระทรวงเวทมนต์ครอบครองย้อนเวลากลับไปช่วยชีวิตเซดริก ซึ่งแฮร์รี่ปฏิเสธ แต่อัลบัสแอบได้ยิน และทำให้รู้จักเดลฟี่ด้วย ก่อนที่อัลบัสจะกลับไปเรียนที่ฮอกวอตส์ แฮร์รี่พยายามปรับความเข้าใจ ด้วยการให้ของแก่เขา 2 อย่าง อย่างแรกคือ Love Potion ที่รอนฝากมาให้ และผ้าห่มเด็กเก่า  ที่แม่ของแฮร์รี่ใช้ห่อแฮร์รี่ในคืนที่ถูกฆ่า แต่อัลบัสกลับไม่สนใจ และทะเลาะกับแฮร์รี่อีก  ทำให้อัลบัสโยนผ้าห่มไปชนกับ Love Potion จนมันกระจายไปทั่วผ้าห่ม
ระหว่างทางไปฮอกวอตส์ อัลบัสชวนสกอร์เปียส ไปเอาเครื่องย้อนเวลาที่กระทรวง เพื่อไปช่วยเซดริก โดยกระโดดรถไฟหนีโรงเรียน ไปหาเดลฟี่ซึ่งได้ทำน้ำยาสรรพรสให้ เพื่อปลอมตัวเป็นเฮอร์ไมโอนี่ รอน และแฮร์รี่ บุกเข้ากระทรวงขโมยเครื่องย้อนเวลามาได้ และจะใช้เครื่องย้อนเวลานี้ให้พวกเขาไปขัดขวางไม่ให้เซดริกชนะการแข่งขันไตรภาคี จะได้ไม่ต้องเจอโวลเดอมอร์ และไม่ต้องตาย ขณะเดียวกันแฮร์รี่ จินนี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ละเดรโกก็กำลังตามหาเด็ก 2 คนนี้อยู่เช่นกัน
      ในการย้อนเวลานี้ อัลบัสกับสกอร์เปียสใช้คาถาชิงไม้กายสิทธิ์ของเซดริกมาได้ ทำให้เซดริกไม่ชนะในภารกิจแรกนี้ แต่ระหว่างนั้นเครื่องย้อนเวลาได้ดึงเด็ก 2 คนนี้กลับมายังปัจจุบัน ทำให้พวกเขารู้ว่าอยู่ในอดีตได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น และทำให้อัลบัสได้รับบาดเจ็บด้วย เมื่ออัลบัสหายดีได้เข้าเรียนปกติกลับพบว่าปัจจุบันได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ รอนแต่งงานกับปัทมา พาติล และโรสไม่ได้เกิด เฮอร์ไมโอนี่เป็นอาจารย์จอมเข้มงวด แต่เซดริกก็ตายอยู่ดี อัลบัสสืบจนรู้ว่าพวกเขาเป็นต้นเหตุให้อดีตเปลี่ยนไป เพราะจากการที่ไปในช่วงแข่งขัน ทำให้เฮอร์ไมโอนี่สงสัยในพวกเขา และไม่ได้เป็นคู่เต้นรำของวิคเตอร์ ครัม จนทำให้รอนไม่หึง และไปงานเต้นรำกับปัทมา และเมื่อโตขึ้นก็แต่งงานกัน
เดลฟี่แอบมาพบกับอัลบัสและขอให้คุยกับสกอร์เปียส ทั้งสองแอบมาพบกันที่ห้องน้ำหญิง ทำให้ได้เจอกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ จึงรู้ว่าท่อตรงนี้ต่อกับทะเลสาบที่เคยเป็นภารกิจที่สอง พวกเขาจึงย้อนเวลาไปเพื่อไปทำให้เซดริกล้มเหลวอีกครั้ง ด้วยการใช้คาถาทำให้เขากลายเป็นลูกบอลลูนลอยออกไปนอกทะเลสาบ ระหว่างนั้นแฮร์รี่กับเดรโกได้กลับมาที่ฮอกวอตส์จนไปเจอเมอร์เทิล จึงรู้ว่าพวกเขามีเครื่องย้อนเวลาและกลับไปหาเซดริก พอหมดเวลาสกอร์เปียสกลับมายังปัจจุบันอีกครั้งเพียงคนเดียว และพบว่า โดโลเรส อัมบริดจ์เป็นอาจารย์ใหญ่ที่ฮอกวอตส์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนศาสตร์มืด มีผู้คุมวิญญาณลอยเต็มไปหมด แฮร์รี่แพ้สงครามและถูกฆ่าตาย ทำให้อัลบัสไม่ได้เกิดมา 
     สกอร์เปียสได้พบกับเดลฟี่ และได้รู้ว่าเดลฟี่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด เดลฟี่ได้ย้อนเวลากลับมาเพื่อจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย ทำให้สกอร์เปียสได้พบกับอัลบัสอีกครั้ง ทั้งสองพบว่าพวกเขาอยู่ในอดีต หนึ่งวันก่อนที่โวลเดอร์มอร์จะบุกมาฆ่าครอบครัวพอตเตอร์ พวกเขาจึงรีบเดินทางไปที่ก็อดดริกส์โฮลโลว์ เพื่อหยุดยั้งเดลฟี่ ระหว่างนั้นพวกแฮร์รี่กำลังตามหาลูก  ซึ่งตอนนั้นเดรโกมาบอกแฮร์รี่ว่าเขามีเครื่องย้อนเวลาของจริงที่ไม่ใช่ของต้นแบบที่ย้อนเวลาได้เพียงห้านาที แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าลูก  หลงอยู่ในช่วงเวลาใด
    อัลบัสพยายามหาวิธีติดต่อกับพ่อแม่ในปัจจุบัน และเขาก็รู้ว่าจะสื่อสารกับพ่อได้โดยผ่านทางผ้าห่มเก่าที่ใช้ห่อทารกแฮร์รี่ ซึ่งเขาทิ้งไว้ที่ห้องตอนทะเลาะกับพ่อ และรู้ว่ามันเปื้อน Love Potion อัลบัสต้องผสมปรุงยาและหาไม้กายสิทธิ์เพื่อส่งข้อความถึงพ่อ และในปัจจุบันข้อความที่อัลบัสทำในอดีต ก็ปรากฏที่ผ้าห่มว่า “Dad, help, Godric’s Hollow. 31/10/81” ทำให้พวกแฮร์รี่ตามหาลูกพบ และวางแผนป้องกันไม่ให้เดลฟี่พบกับโวลเดอมอร์ โดยแฮร์รี่ปลอมตัวเป็นโวลเดอมอร์ เพื่อล่อให้เดลฟี่ออกมา เมื่อเธอออกมา ได้บอกว่าเธอคือลูกสาวของเขากับเบลลาทริกต์ที่มาจากอนาคต เธอสามารถพูดภาษาพาร์เซลรวมทั้งเหาะในอากาศได้ คาถาปลอมตัวเสื่อม ทำให้แฮร์รี่ต้องต่อสู้กับเดลฟี่ ในที่สุดพวกแฮร์รี่ได้ออกมาช่วยจับเดลฟี่ไว้ได้ เธอขอร้องและบอกแฮร์รี่ว่าเธอเพียงแค่อยากเจอพ่อเท่านั้น ตอนนั้น
โวลเดอมอร์กำลังมาถึง แฮร์รี่ลังเลเพราะพ่อแม่ของเขากำลังจะถูกฆ่าและเขาทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาไม่ต้องการเปลี่ยนอดีต พวกเขาได้ใช้เครื่องย้อนกลับในปัจจุบัน และทุกอย่างก็กลับมาสู่สภาวะปกติ

    แปลจากต้นฉบับผลงานชิ้นใหม่ของ "J.K. Rowling, John Tiffany, Jack Thorne" ในรูปแบบ
บทละครเวทีที่เขียนบทโดย Jack Thorne
    "แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป บทละครเวที" ตีพิมพ์ครั้งแรกในฉบับซ้อมใหญ่ เผยแพร่พร้อมละครเวทีซึ่งเปิดแสดงที่เวสต์เอนด์ ลอนดอน เมื่อฤดูร้อนปี ค.ศ.2016 ละครได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามทั้งจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ในขณะที่บทละครก็กลายเป็นหนังสือขายดีระดับโลกทันที บทละครเวทีฉบับสมบูรณ์นี้ มีเนื้อหาเพิ่มเติมจากฉบับซ้อมใหญ่ รวมถึงบทพูดล่าสุดที่ใช้จริงบนเวทีด้วย


วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561


ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ (The miracles of the Namiya general store). เคโงะ, ฮิงาชิโนะ. แปลโดย กนกวรรณ เกตุชัยมาศ. กรุงเทพฯ : น้ำพุสำนักพิมพ์, 2560. 506 หน้า. ราคา 295 บาท

ภาพหน้าปก

    หนังสือเรื่องนี้ เริ่มเรื่องด้วยเด็กหนุ่มหัวขโมยสามคนเข้าไปกบดานในร้านชำร้าง แล้วจู่ๆ ก็มีจดหมายลึกลับถูกหย่อนเข้ามาในร้าน มันดูเหมือนจดหมายธรรมดา จนกระทั่งพวกเขาเปิดอ่านและพบว่าเป็นจดหมายที่ส่งมาจากอดีตราวสี่สิบปีก่อน ถึงร้านชำนามิยะ ที่ดูเหมือนว่าร้านชำแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องรับปรึกษาปัญหาทุกรูปแบบ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมร้านชำนี้จึงติดต่อกับอดีตได้ แต่เมื่อได้อ่านจดหมายแล้ว พวกเขาก็เขียนคำแนะนำให้และส่งกลับไป ซึ่งก็ได้คำตอบ-คำถามกลับมาเหมือนเดิม และในตอนท้ายเด็กหนุ่ม 3 คนยังพบว่าบ้านที่พวกเขาได้เข้าไปขโมยของ และวิ่งหนีมาหลบที่ร้านชำนี้ เป็นคนที่ได้นำคำแนะนำของพวกเขาไปปฏิบัติจนร่ำรวยในปัจจุบัน เพราะได้อ่านจดหมายจากกระเป๋าที่พวกเขาขโมยมา เป็นจดหมายขอบคุณที่เจ้าของจดหมายตั้งใจจะมาส่งที่ร้านชำ แต่ถูกขโมยเสียก่อน
ฮิงาชิโนะ เคโงะ
     เป็นเรื่องที่ผู้เขียนวางพล็อตเรื่องได้ดีเพราะเมื่อตัวละครแต่ละตัวเขียนจดหมายมาขอคำปรึกษาจะเป็นมิติแบน ไม่เห็นความเป็นส่วนตัว แต่อีกฉากจะค่อย เล่าเรื่องให้เห็นมิติที่กว้างขึ้น แต่ละคนมีชีวิตที่น่าสนใจ และน่าติดตาม ทำให้ผู้อ่านรู้สึกไปกับตัวละครแต่ละคนได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้ด้วย
    แม้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับความเหนือจริง ที่มีมิติเวลาในอดีตและอนาคตมาบรรจบกัน แต่เนื้อเรื่องเป็นไปในทิศทางที่ตัวละครส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสถานสงเคราะห์มารุมิตสึเอ็น ซึ่งในตอนท้ายมีการเปิดเผยว่าผู้ก่อตั้งสถานสงเคราะห์แห่งนี้ เคยเป็นคนรักเก่าของเจ้าของร้านชำนามิยะ

 คนที่เขียนมาขอคำปรึกษาส่วนใหญ่มักมีคำตอบในใจตัวเองอยู่แล้ว ที่เขียนมาก็เพราะอยากได้รับคำยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูกต้อง การที่บางคนส่งจดหมายมาอีกหลังจากได้อ่านคำตอบแล้ว คงเป็นเพราะคำตอบที่ได้รับแตกต่างไปจากที่ตัวเองคิดนั่นเอง (หน้า 186
   หนังสือเรื่อง "ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ" มียอดขายกว่า12 ล้านเล่ม และมีการสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งในญี่ปุ่นและจีน
ดูภาพยนตร์ได้ที่ https://www.dailymotion.com/video/x6jyfg6

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เรื่องรักขนาดใหญ่ของเด็กชายตัวเล็ก (Smal as an elephant). จาคอบสัน, เจนนิเฟอร์ ริชาร์ด. ปณต ไกรโรจนานันท์, แปล. กรุงเทพฯ: แพรวเยาวชน, 2558. 204 หน้า. ราคา 185 บาท.



เนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อ แจ็ก มาร์เทล อายุ 12 ปี ที่ถูกแม่ทิ้งไว้กลางวนอุทยานที่เขาและแม่มาเที่ยวกันในวันหยุดเรียน แม่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่เขาไม่สามารถบอกใครได้ว่าถูกแม่ทิ้ง เพราะเมื่อคนอื่นรู้เขาจะถูกพรากไปจากแม่ทันที เขาต้องคอยหลบหลีกผู้คน ต้องใช้ชีวิตตามลำพังอยู่หลายสิบวัน มีข่าวเกี่ยวกับแจ็กตามหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ในบางขณะก็พบผู้ใหญ่ใจดีหลายคนที่ให้ความช่วยเหลือ แต่แจ็กก็รับไว้ไม่ได้ กลัวว่าจะถูกตำรวจจับ และจะส่งตัวกลับไปอยู่กับยายที่แม่ไม่ชอบ และจะไม่ได้พบหน้าแม่อีก แต่มีสิ่งหนึ่งที่แจ็กแน่วแน่ในการกำหนดการเดินทางครั้งนี้ก่อนจะมุ่งหน้ากลับบ้านคือการไปหาช้างในสวนสัตว์ที่รัฐเมน เพราะแจ็กชอบช้างมาก ๆ และแจ็กก็ได้ไปถึงที่นั่นตามที่ตั้งใจ และการเดินทางที่แสนลำบากสำหรับเด็กอายุ 12 ปี ก็สิ้นสุดลงเพราะที่สวนสัตว์นั่น เขาได้พบยายที่รักเขามาก และเข้าใจความแปรปรวนของแม่ที่ทิ้งแจ็กไว้ และตัวเองไปเที่ยวที่อื่นไกลออกไป

  เมื่ออ่านเรื่องนี้จบลง จะรู้สึกถึงความสุขจากเรื่องราวแสนประทับใจ ตลอดเรื่องจะค่อย ๆ พัฒนาให้เห็นว่าทำไมแจ็กจึงสามารถดำเนินชีวิตตัวคนเดียวได้ เพราะตลอดเวลาที่แจ็กอยู่กับแม่ที่บ้าน ก็ถูกทิ้งอยู่ให้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ เนื่องจากแม่มีโรคทางจิตที่ไม่รับรู้เรื่องราวของใครนอกจากตัวเอง  ต่อเมื่ออารมณ์หายแปรปรวน จึงค่อยกลับมาบ้าน แจ็กจึงเป็นเด็กที่ดูแลดัวเองได้ แต่การที่มีแม่แบบนี้ แจ็กก็รักแม่มาก ไม่ต้องการให้ใครมาพรากแม่ไป แต่สุดท้ายด้วยความลำบากในการเดินทาง ทำให้เขาเปิดใจรับความรักจากยายที่ติดตามหาเขาตลอดเวลาหลายวัน และรู้ว่าในวัยเด็กของเขา ยายเป็นผู้ดูแลเขาตลอด และเคยพาเขาไปละครสัตว์ ทำให้เขารู้จักช้างและหลงรักช้างมาตลอดตั้งแต่นั้น
    เรื่องราวความรักของเด็กชายตัวเล็กคนนี้ เป็นเหมือนตัวแทนมนุษย์ลูกที่จะบอกแม่ ๆ ทั้งหลายว่าลูกรักแม่มากแค่ไหน และไม่ว่าแม่จะเป็นอย่างไร แม่ก็เป็นคนดีที่สุดในโลกของลูกเสมอ
   หนังสือเรื่องนี้ได้รับรางวัลมากมาย
   "ในแต่ละปี ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีการประกาศรางวัล A Parent’s Choice Awards ให้วรรณกรรมเยาวชนที่กรรมการเห็นว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่พ่อแม่ควรซื้อให้ลูกอ่าน ซึ่งเมื่อปี ค.ศ.2011 ความรักขนาดใหญ่ของเด็กชายตัวเล็ก ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง และพอหนังสือกระจายไปอยู่ในมือนักอ่านแล้ว ก็ได้รับการลงคะแนนให้เข้ารอบสุดท้ายและชนะเลิศรางวัลด้านวรรณกรรมเยาวชนอีกหลายรางวัล ทั้งหมดคือเครื่องการันตีชั้นเยี่ยมว่าเรื่องราวของเด็กชายแจ็ก มาร์เทลทรงพลังไม่น้อย
แจ็ก มาร์เทล พระเอกของเรื่องนี้ ไม่ใช่เด็กดีอะไรมากมาย เขาดื้อรั้น ทำผิด เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเด็กทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้แจ็กต่างจากเด็กคนอื่น คือความรักขนาดใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มที่เขาพกติดตัวไว้ตลอดเวลา ขณะเดินทางตามหาแม่ ผู้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย"
ผู้แต่ง เจนนิเฟอร์ ริชาร์ด จาคอบสัน


ยาคุโมะ นับสืบวิญญาณ (Another files) ตอนต้นไม้แห่งคำลวง. คามินากะ, มานาบุ. แปลโดย พลอยทับทิม ทับทิมทอง. กรุงเทพฯ :  เอ็นเธอร์บุ๊คส์,  2559.  234 หน้า.  ราคา 189 บาท.

   ยาคุโมะ นักสืบดวงตาซ้ายสีแดงที่เห็นวิญญาณ เล่มนี้เป็นเรื่องราวในอดีตของอิชิอิ ตำรวจหนุ่มจอมขี้ขลาดแห่งหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ เรื่องราวเริ่มจากการที่อิชิอิ เห็นศพในที่เกิดเหตุ อดีตเมื่อสิบปีก่อนที่เขาคิดว่าได้ฆ่าใครบางคนตาย และเจ้าตัวอยากลืมใจจะขาดก็หวนคืนมาอีกครั้ง... และยังมีคำให้การของผู้ต้องสงสัยกับพยานซึ่งมีส่วนที่เหมือนแต่ก็มีส่วนที่ไม่เหมือนกัน และเรื่องที่เพื่อนของฮารุกะถูกวิญญาณใครบางคนเข้าสิงอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อนวุ่นวาย แต่เมื่อยาคุโมะลงมือสืบกับวิญญาณทั้งที่ถูกฆ่าในปัจจุบันและอดีต ทำให้รู้ว่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวพันกัน คือ พี่น้องสองสาวรักผู้ชายคนเดียวกัน ซึ่งในอดีตพี่สาวคนพี่ถูกผลักตกบันไดศาลเจ้า แต่ตำรวจไม่มีหลักฐานจึงคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ และในปัจจุบันน้องสาวได้มาเป็นคู่หมั้นของชายคนรักของพี่สาว แต่ด้วยความแค้นที่คิดว่าถูกคนรักฆ่า พี่สาวจึงเข้าสิงร่างน้องสาว แต่เมื่อฆ่าสำเร็จจึงรู้ว่าน้องสาวของเธอต่างหากที่ผลักเธอตกบันได เธอจึงต้องไปสิงเพื่อนของฮารุกะ เพื่อจะได้กลับมาฆ่าน้องสาว ส่วนที่อิชิอิคิดว่าเป็นคนฆ่า เขาเพียงคิดไปเอง 

    เนื้อเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อน ตามแบบฉบับของยาคุโมะ และเมื่อเรื่องราวถึงบทสรุป ผู้อ่านจะรู้สึกว่าเรื่องมันหักมุม ผู้ร้ายจะเป็นคนที่เราคาดไม่ถึง สนุกเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เนื้อเรื่องเป็นของคนใกล้ตัวของยาคุโมะ ไม่ใช่เรื่องราวชีวิตหนัก ๆ ของยาคุโมะ ทำให้ผู้อ่านอ่านได้ไม่เครียดมาก