วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

แฮร์รี่ พอตเตอร์




แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต = Harry Potter and the deathly hallows. โรว์ลิ่ง, เจ. เค. แปลโดย สุมาลี. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์, 2550. 696 หน้า. ราคา 495 บาท



สัญญลักษณ์เครื่องรางยมทูต
       เนื่องจากภาพยนตร์ได้นำตอนนี้มาฉายโดยแบ่งออกเป็น 2 ตอน จึงนำหนังสือมาอ่านเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก็ยังสนุกเหมือนเดิม เพราะมีรายละเอียดมาก ตอนสุดท้ายของชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์นั้นเป็นตอนที่พูดถึงรายละเอียดที่ยังไม่ได้กล่าวถึงในตอนต้น ๆ อย่างเช่น ตอนลอร์ดโวเลอร์มอร์บุกบ้านและฆ่าพ่อแม่แฮร์รี่ ซึ่งควรเป็นเรื่องในตอนที่ 1 ประวัติครอบครัวของดัมเบิลดอร์ และประวัติของพ่อมดแม่มดที่ก่อตั้งโรงเรียนฮอกต์วอตต์ และที่สำคัญที่สุดคือการเปิดเผยตัวตนของสเนปที่ดูร้ายกาจกับแฮร์รี่ในทุก ๆ ตอนที่ผ่านมา
       การอ่านหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุก ๆ ตอนจะรู้สึกเหมือนได้พบกับคนที่รู้จัก เพราะตั้งแต่ตอนแรกที่แฮร์รี่ยังเป็นเด็ก และค่อย ๆ โตเป็นหนุ่มที่มีเรื่องราวการผจญภัย กับเพื่อนรัก 2 คนคือ รอน วีสลี่ย์ และเฮอร์ไมโอนี่ ทำให้ผู้อ่านต้องคอยลุ้นระทึกไปตลอดเวลา และเรื่องราวในจินตนาการที่บรรเจิด เมื่ออ่านถึงตอนจบ ทำให้มีความคิดว่า เจ.เค. โรลลิ่ง นี่สุดยอดจริง ๆ
        แก่นของเรื่องมีสั้น ๆ สรุปได้ว่า คนที่คิดว่าตัวเองเก่ง และอยากจะครอบครองคนทั่วโลก โดยไม่สนใจว่าได้ฆ่าคนไปกี่คน จะไม่สามารถชนะคนที่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องคนอื่น ซึ่งแสดงให้เห็นตั้งแต่ตอนที่ 1 ที่แม่ของแฮร์รี่ เอาตัวเองปกป้องลูก จนทำให้ลอร์ดโวเลอร์มอร์สูญเสียร่างกาย และในตอนจบก็แสดงอีกครั้งที่ให้แฮร์รี่ไปเผชิญหน้ากับลอร์ดโวเลอร์มอร์ แต่แล้วสิ่งที่ลอร์ดโวเลอร์มอร์ฆ่าได้คือฮอร์ครักซ์ วิญญาณส่วนที่ 7 ของลอร์ดโวเลอร์มอร์ที่อยู่ในตัวแฮร์รี่ตั้งแต่ตอนที่ 1 ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมแฮร์รี่ล่วงรู้ความคิดของลอร์ดโวเลอร์มอร์
         ตลอดเวลาที่อ่านจะนับฮอร์ครักซ์ว่า ครบ 7 ชิ้นหรือยัง ซึ่่งขอบันทึกไว้ว่า ฮอร์ครักซ์ทั้ง 7 มีดังนี้ ชิ้นแรกคือ บันทึกของทอม ริดเดิ้ล ชิ้นที่ 2 คือแหวนประจำตระกูลกอนน์ ซึ่งเป็นหินเครื่องรางด้วย สามารถเรียกคนที่ตายกลับมาได้ ชิ้นที่ 3 ลอกเก็ต ที่ดัมเบิลดอร์ไปเอากับแฮร์รี่ในตอนที่ 6 ที่ถูกเรกูลัส เบลค เอาไปก่อน ชิ้นที่ 4 ถัวยฮัฟเฟิลพัฟ ชิ้นที่ 5 รัดเกล้าของเรเวนคลอ ชิ้นที่ 6 งูนากินีที่อยู่ใกล้ตัวลอร์ดโวเลอร์มอร์ ชิ้นที่ 7 ในตัวแฮร์รี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น