วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ไก่ใส่พลัม

ไก่ใส่พลัม (Poulet aux prunes or Chicken with plums). ซาทราพิ, มาร์จอเน่. แปลโดย ณัฐพัดา. ปทุมธานี : กำมะหยี่, 2553. 90 หน้า. ราคา 120 บาท.



ไก่ใส่พลัมเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ กรุงเตหะราน ในปี ค.ศ. 1958 เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงแปดวันสุดท้ายในชีวิตของนัสเซอร์ อาลี ผู้เป็นนักดนตรีที่โด่งดังและมีศักดิ์เป็นลุงของแม่ผู้แต่ง ซึ่งตัดสินใจที่จะตายและนอนรอความตายอยู่บนเตียง
             เนื้อเรื่องเริ่มต้นขึ้นว่า
 ขณะที่นัสเซอร์ อาลี กำลังเดินอยู่บนถนน เขาได้เดินผ่านหญิงวัยกลางคนนางหนึ่งที่เดินมากับหลานชาย
  อาลีทักผู้หญิงคนนี้ว่า คุณชื่ออิเรนใช่ไหมครับ ?
ค่ะ! เอ๊ะ คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง
จำผมไม่ได้เหรอครับ
บอกตามตรง จำไม่ได้ค่ะ
             บทสนทนาคล้ายกับคำทักทายที่ไร้ความหมาย แต่สุดท้ายผู้อ่านจะต้องย้อนกลับมาอ่านใหม่เมื่อถึงตอนท้ายเรื่องว่า นี่คือประเด็นสำคัญที่ทำให้อาลี ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
              ขณะเดียวกันเนื้อเรื่องดำเนินต่อไปว่า นัสเซอร์ อาลี กำลังค้นหาเครื่องดนตรีที่มีชื่อว่า ทาร์ (เครื่องสายของอิหร่านคล้ายกับกีต้าร์) ตัวใหม่มาทดแทนทาร์ตัวเก่าที่ถูกภรรยาของเขาทำพังตอนที่ทะเลาะกัน เขาพยายามหาทาร์ที่เหมาะกับเขา แต่ต้องมาพบว่าทาร์ตัวอื่นๆ เสียงไม่ดีพอ เขาจึงจมอยู่ในห้วงของความหดหู่ รู้สึกว่าชีวิตตัวเองล้มเหลว จึงตัดสินใจที่จะตาย
            เมื่ออ่านแรก ๆ จะเห็นว่าการฆ่าตัวตายของนัสเซอร์ อาลี มันช่างไม่สมเหตุสมผลเลย แต่เมื่อค่อย ๆ อ่านไป ผู้เขียนได้ผูกโยงเรื่องได้อย่างน่าสนใจว่า เครื่องเล่นทาร์ที่ถูกทำพัง มีเรื่องราวอยู่เบื้องหลังที่ทำให้ผู้อ่านเห็นประวัติครอบครัวของนัสเซอร์ อาลี ได้อย่างชัดเจน
            เรื่องเล่าพาผู้อ่านย้อนกลับไปดูชีวิตอาลีในวัยหนุ่มที่เลือกที่จะเป็นนักดนตรีซึ่งทำให้ถูกกีดกันเรื่องความรักกับสาวงามนางหนึ่งซึ่งพ่อแม่ของเธอมองว่า นักดนตรีคืออาชีพที่ไม่มั่นคง เขาจึงไม่สามารถที่จะสมหวังในรักครั้งแรกได้ จนในที่สุด แม่ของอาลีจึงต้องกล่อมให้เขาแต่งงานกับภรรยาคนปัจจุบันซึ่งแอบหลงรักอาลีมานาน
             ด้วยความทรงจำในรักครั้งแรก ทำให้เสียงดนตรีของทาร์เต็มไปด้วยความห่วงหาอาวรณ์ในความรักโรแมนติกในอดีตของเขาตลอดเวลา และเมื่อทาร์ของเขาถูกภรรยาทำลาย จึงไม่ใช่เพียงการทำลาย ทาร์เครื่องดนตรีชิ้นเอกของเขาเท่านั้น แต่เปรียบการทำร้าย ความหมายชีวิตที่ผูกติดกับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตอาลีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  และเมื่อเขานึกถึงเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง และการถูกหลงลืมจากผู้หญิงที่ตนเคยรักมากซึ่งก็คือหญิงวัยกลางคนที่เดินบนถนนกับหลานชายที่ปรากฏอยู่ในหน้าแรกนั่นเอง ... ทำให้เขาหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
              เนื้อเรื่องในไก่ใส่พลัมจัดเป็นหนังสือตลกร้ายและไม่ได้เคร่งเครียดเหมือนชีวิตของนัสเซอร์ อาลี เสนอเนื้อหาที่เกี่ยวกับความหมายของชีวิตและความตาย ตั้งคำถามว่าอะไรคือความหมายของชีวิตของเราที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขัน  และความงดงาม ชวนยิ้มตลอด เช่น

            เจ้าเคยเห็นใครเขียนบทกลอนบรรยายถึงผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยที่คอยตะคอกเขาวันละสี่ครั้งมั้ย  เจ้าคิดรึว่าหากโรมิโอและจูเลียตมีลูกด้วยกันซักหกคน แล้วมันจะมีหนังสือเล่าเรื่องของพวกเขา

      แม่ของนัสเซอร์ อาลี ตายเพราะสูบบุหรี่ แต่กลับเรียกบุหรี่ว่า อาหารสำหรับจิตวิญญาณ

      การบรรยายถึงหน้าอกของโซเฟีย ลอเรน ที่นัสเซอร์ อาลี อยากนอนตายคาอก

      และการบอกเล่าถึงอาหารจานโปรดของ นัสเซอร์ อาลี ไก่ใส่พลัม จานเด็ดฝีมือแม่ของเขาที่ประกอบไปด้วย ไก่ ลูกพลัม หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ขมิ้น และหญ้าฝรั่น เสิร์ฟกินกับข้าว

    เป็นหนังสือภาพการ์ตูนขาวดำ รูปแบบการเล่าเรื่องจะเล่าแบบย้อนไปย้อนมา บางครั้งอาจงง ๆ ว่าเป็นปัจจุบันหรืออดีต แต่เมื่ออ่านไปจะค่อย ๆ เข้าใจ

  “ไก่ใส่พลัมเป็นหนังสือการ์ตูนยอดเยี่ยมแห่งปี (Prix du Meilleur Album) จากเทศกาลหนังสือการ์ตูนนานาชาติเมืองอองกุเล็ม (Festival international de la BD d’Angoulème) ประจำปี ค.ศ. 2005 ผลงานของ มาร์จอเน่ ซาทราพิ (Marjane Satrapi) นักเขียนหญิงชาวอิหร่านที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีชื่อเสียงจากนิยายภาพเรื่อง แพร์ซโพลิส (Persipolis) ซึ่งหยิบเอาเรื่องราวของตัวผู้เขียน กับการเผชิญชีวิตตั้งแต่เล็กจนโตที่ประสบกับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอิหร่าน ตั้งแต่สมัยการปฏิวัติอิสลามในปี 1979 เนื้อหาแสบๆคันๆ เหน็บกัดวิถีแบบรัฐอิสลามที่ต่อต้านความเป็นอเมริกันสุดลิ่มทิ่มประตู จนเป็นที่พูดถึงในวงกว้างซึ่งต่อมาได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์  (http://www.youtube.com/watch?v=JRNCP42O3sQ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น