เปรียบเทียบโครงการประกันราคาข้าว กับการรับจำนำ
โครงการประกันราคา
โครงการประกันราคา
เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เพื่อแก้ปัญหาการคอรัปชันจากการรับจำนำจากรัฐบาลชุดก่อน
เพื่อเป็นการประกันว่า
เกษตรกรจะขายข้าวได้ไม่ต่ำกว่า
1 หมื่นบาท
และอาจจะปรับขึ้นในปีต่อไป
ข้อดี
- เป็นการประกันว่าชาวนาจะขายข้าว
ได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท (และจะปรับขึ้น ในปีต่อไป) แม้ว่าราคาข้าวในท้องตลาดจะเป็นเท่าไรทางรัฐจะชดเชยส่วนที่ขาดหายไปให้
- จำนวนเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มากกว่า
- ราคาข้าวจะเป็นไปตามกลไกตลาดไม่มีการบิดเบือน
- ปัญหาทุจริตคอรัปชันจากเจ้าหน้าที่รัฐมีน้อยมากเพราะเงินสู่มือชาวนาโดยตรงผ่านธนาคาร ธ.ก.ส.
- แม้เกิดภัยพิบัติจากน้าท่วม,ศัตรูพืช ระบาดชาวนาก็จะยังได้ส่วนต่างแม้ไม่มีผลผลิต
- จำนวนเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มากกว่า
- ราคาข้าวจะเป็นไปตามกลไกตลาดไม่มีการบิดเบือน
- ปัญหาทุจริตคอรัปชันจากเจ้าหน้าที่รัฐมีน้อยมากเพราะเงินสู่มือชาวนาโดยตรงผ่านธนาคาร ธ.ก.ส.
- แม้เกิดภัยพิบัติจากน้าท่วม,ศัตรูพืช ระบาดชาวนาก็จะยังได้ส่วนต่างแม้ไม่มีผลผลิต
ข้อเสีย
- รัฐต้องจ่ายเงินไปสู่เกษตรโดยตรง
ทำให้รัฐต้องจ่ายเงินเพื่อการนี้เป็นจำนวนมากโดยไม่ได้อะไรกลับมา
- มีการแจ้งการทำนาที่เป็นเท็จ
เช่นทำนา 10 ไร่บอกว่า 20 ไร่
แม้จะมีประชาคมแต่บ้างครั้งต่างก็เกรงใจกันไม่กล้าคัดค้านหรืออาจเนื่องจากต่างคนต่างแจ้งเท็จด้วยกัน
เรื่องนี้มีบ่นกัน มาก
- ทำให้ราคาข้าวไม่ขึ้นเกินหนึ่งหมื่นบาทเพราะพ่อค้ารับซื้อรู้ว่ารัฐจ่ายส่วนต่างให้เกษตรแล้วเหมือน
รัฐกดราคาข้าวไม่ให้เกินหนึ่งหมื่นบาท
- การจ่ายเงินส่วนต่างจะจ่ายให้แค่25
ตัน ถ้าใครได้เกินกว่า 25 ตัน
ไม่ได้รับส่วนต่าง
- คิดให้ผลผลิตข้าวที่ 500
กก. ต่อไร่ ถ้าใครทำได้มากกว่านั้นก็ไม่ได้
โครงการรับจำนำ
โครงการรับจำนำข้าว
เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในสมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล
และมาหยุดโครงการดังกล่าวในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า มีช่องโหวในเรื่องของการคอรัปชัน ในขณะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ก้าวเข้ามาครั้งนี้
จึงนำนโยบายดังกล่าวกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง
ข้อดี
- จากการประกาศจำนำราคาข้าวที่ 15,000
บาท ชาวนาจะได้รับเงิน 15,000 เลย (กรณีข้าวมีความชื้นที่15
เปอร์เซนต์) ซึ่งเป็นเงินสด
- ชาวนา มีข้าวเท่าไรก็ขายได้ตามจำนวนผลผลิตที่ได้ เช่น หากทำนา มีข้าว 10 ตัน ก็ได้ทั้ง 10 ตัน เป็นเงิน 150,000 บาท
-ชาวนาจะได้รับเป็นเงินสดทันทีเมื่อขายข้าว
- จะทำให้ราคาข้าวในท้องตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากถ้าพ่อค้าไม่รับซื้อในราคาสูงก็ไม่มีข้าวขายเพราะรัฐจะซื้อเองหมด
- รัฐบาลสามารถควบคุมราคาซื้อ-ขายข้าวได้ (ในการส่งออกและบริโภคภาย ในประเทศ)
- ชาวนา มีข้าวเท่าไรก็ขายได้ตามจำนวนผลผลิตที่ได้ เช่น หากทำนา มีข้าว 10 ตัน ก็ได้ทั้ง 10 ตัน เป็นเงิน 150,000 บาท
-ชาวนาจะได้รับเป็นเงินสดทันทีเมื่อขายข้าว
- จะทำให้ราคาข้าวในท้องตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากถ้าพ่อค้าไม่รับซื้อในราคาสูงก็ไม่มีข้าวขายเพราะรัฐจะซื้อเองหมด
- รัฐบาลสามารถควบคุมราคาซื้อ-ขายข้าวได้ (ในการส่งออกและบริโภคภาย ในประเทศ)
ข้อเสีย
- จากอดีตที่ผ่านมามีการคอรัปชันสูง
ทำให้รัฐต้องขาดทุนปีละหลายหมื่น ล้าน
- รัฐอาจต้องสร้างโกดังไว้เก็บข้าวเอง จำนวนมาก
- เป็นการ บิดเบือนกลไกตลาดทำให้ รัฐต้องใช้เงินจำนวนมากไปซื้อข้าวซึ่งรัฐไม่น่าจะมีเงินมากมาซื้อข้าวชาวนาได้ทั้งหมดในกรณีที่พ่อค้าไม่รับซื้อข้าวแข่ง
- รัฐอาจต้องสร้างโกดังไว้เก็บข้าวเอง จำนวนมาก
- เป็นการ บิดเบือนกลไกตลาดทำให้ รัฐต้องใช้เงินจำนวนมากไปซื้อข้าวซึ่งรัฐไม่น่าจะมีเงินมากมาซื้อข้าวชาวนาได้ทั้งหมดในกรณีที่พ่อค้าไม่รับซื้อข้าวแข่ง
- รัฐต้องเสียเงินจำนวนไม่น้อยในการสต๊อกข้าวและรักษาคุณภาพข้าวจำนวนมากถ้าขายข้าวไม่ได้
- อาจมีข้าวจากต่างประเทศเข้ามาสวมสิทธิ์
- อาจมีข้าวจากต่างประเทศเข้ามาสวมสิทธิ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น